การเซิ้งบั้งไฟ
ส่วนหนึ่งของเอกสารที่เกี่ยวข้องในงานวิจัยการเซิ้งบั้งไฟที่เคยได้รวมรวมตอนที่จะทำวิจัยเล็กในคติชนวิทยา
บุญบั้งไฟเมืองยโสธร
เซิ้งบั้งไฟ
เป็นประเพณีและพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล
จากคตินิยมและความเชื่อเรื่องตำนานพญาคันคาก (คางคก) ซึ่งเป็นทั้งวรรณกรรมมุขปาฐะและวรรณกรรมจารึก
อีกเรื่องหนึ่งคือ ตำนาน "ท้าวผาแดง -- นางไอ่คำ" ซึ่งปราชญ์ชาวอีสาน ได้แต่งวรรณกรรมจากสังคมและความเป็นอยู่ของชุมชนชาวขอม
การเซิ้งบั้งไฟ ถือว่าเป็นประเพณีที่ชุมชน ชาวอีสานสืบทอดกันมาพร้อมกับประเพณีการจุดบั้งไฟ คือก่อนที่จะทำบั้งไฟเพื่อจุดถวายพญาแถนบนสวรรค์ ชาวบ้านจะรวมตัวกันออกเซิ้ง(คือ การร้องหรือจ่ายกาพย์ประกอบการฟ้อน) ไปรอบๆหมู่บ้านหรือชุมชนใกล้เคียง เพื่อบอกบุญขอรับไทยทาน เพื่อซื้อ ขี้เกีย (ดินประสิว) มาทำเป็น หมื่อ (ดินปืน) เพื่อบรรจุทำเป็นบั้งไฟ และจุดในพิธีขอฝนต่อไป ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดิศักดิ์ สาศิริ http://www.isan.clubs.chula.ac.th/folkdance/index.php?transaction=roied06.php
การเซิ้งบั้งไฟ ถือว่าเป็นประเพณีที่ชุมชน ชาวอีสานสืบทอดกันมาพร้อมกับประเพณีการจุดบั้งไฟ คือก่อนที่จะทำบั้งไฟเพื่อจุดถวายพญาแถนบนสวรรค์ ชาวบ้านจะรวมตัวกันออกเซิ้ง(คือ การร้องหรือจ่ายกาพย์ประกอบการฟ้อน) ไปรอบๆหมู่บ้านหรือชุมชนใกล้เคียง เพื่อบอกบุญขอรับไทยทาน เพื่อซื้อ ขี้เกีย (ดินประสิว) มาทำเป็น หมื่อ (ดินปืน) เพื่อบรรจุทำเป็นบั้งไฟ และจุดในพิธีขอฝนต่อไป ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดิศักดิ์ สาศิริ http://www.isan.clubs.chula.ac.th/folkdance/index.php?transaction=roied06.php
เซิ้ง หมายถึง
การร้องรำทำเพลงแบบชาวอีสาน
ซึ่งปัจจุบันเซิ้งได้เข้ามามีบทบาทแพร่หลายอยู่ในทุกภาค และเป็นที่ยอมรับกัน
อย่างกว้างขวางว่าเป็นการแสดงอีกแบบหนึ่ง นิยมกันอยู่ขณะนี้ เช่น เซิ้งสวิง
เซิ้งกระหยัง เซิ้งกระติ๊บ เซิ้งบั้งไฟ เซิ้งสุ่ม ฯลฯ เกศสุริยง 07 มีนาคม 2554http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=rouenrarai&month=03-2011&date=07&group=13&gblog=25
การเซิ้ง เป็นศิลปะทางวาทศิลป์-วรรณศิลป์อีกแขนงหนึ่ง
ที่ผู้เซิงต้องมีปฏิภาณพอสมควรเพราะการเซิ้งต้องมีผู้ นำเซิ้ง(ผู้จ่ายกาพย์เซิ้ง)
แล้วผู้ตามคอยว่าตาม การเซิ้ง นั้นใช้การด้นกลอน เพราะไม่มีการเตรียมบทมาก่อน
ลักษณะคำที่ผู้เซิ้ง ใช้นั้น เป็นคำที่ประทบ เสียดสีสังคม โดยเฉพาะ เสียดสี
ชนชั้นปกครอง เป็นต้นฯ แต่ คนในสมัยก่อน
เขาจะไม่ถือโทษโทษโกรธเคืองเมื่อถูกว่ากล่าวเสียดสี เพราะนั่นคือกระจกเงาสะท้อนภาพทางสังคมชนิดหนึ่ง ทิดโส(ด) สารคาม เมื่อ : 31/10/2004 http://www.tidso.com/board_3/view.php?id=443
การเซิ้งบั้งไฟเป็นการบวงสรวงอ้อนวอนแด่พญาแถน
เพื่อขอให้ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล เพื่อให้ชาวบ้านได้ทำไร่ทำนากัน
บทเซิ้งที่ใช้เป็นคำกลอนภาคอีสานชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "กาพย์" ซึ่งวรรคหนึ่งประกอบขึ้นด้วยคำจำนวน 7 พยางค์
คำสุดท้ายของวรรคแรกจะสัมผัสกับคำที่ 1 หรือคำที่ 3
ของวรรคถัดไปอย่างนี้เรื่อยๆศิลปะการฟ้อนภาคอีสาน : ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ, มศว.มหาสารคาม
(2532).
เซิ้ง คือการขับบทกลอนประเภทกาพย์ ด้วยจังหวะและทำนองเฉพาะตัว
โดยมีผู้นำขับกาพย์เซิ้ง 1 คน ร้องนำไปทีละวรรค
คนที่เหลือก็ร้องตามไปทีละวรรค
เซิ้งบั้งไฟ เป็นการฉลองบั้งไฟที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสมือนเป็นการโฆษณาบั้งไฟของตนไปในตัว โดยนำบั้งไฟไปแห่ตามบ้านเรือน มีการร้องบทเซิ้งบั้งไฟไปด้วย เมื่อถึงหน้าบ้าน ก็หยุดขบวน และร้องบทเซิ้งกระเซ้าเหย้าแหย่ไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าสมควรแล้ว ก็เคลื่อนขบวนไปบ้านต่อๆ ไป สุจิตต์ วงษ์เทศ, ประเพณีการเซิ้งบั้งไฟhttp://www.isan.clubs.chula.ac.th/tradition/index.php?transaction=bungfai11.php#menu
เซิ้งบั้งไฟ เป็นการฉลองบั้งไฟที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสมือนเป็นการโฆษณาบั้งไฟของตนไปในตัว โดยนำบั้งไฟไปแห่ตามบ้านเรือน มีการร้องบทเซิ้งบั้งไฟไปด้วย เมื่อถึงหน้าบ้าน ก็หยุดขบวน และร้องบทเซิ้งกระเซ้าเหย้าแหย่ไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าสมควรแล้ว ก็เคลื่อนขบวนไปบ้านต่อๆ ไป สุจิตต์ วงษ์เทศ, ประเพณีการเซิ้งบั้งไฟhttp://www.isan.clubs.chula.ac.th/tradition/index.php?transaction=bungfai11.php#menu
เซิ้งบั้งไฟ ประเพณีอีสานมีความสำคัญต่อชีวิตของชาวอีสาน
ซึ่งมีฮีต 12 คลอง 14 เป็นหลักในการดำเนินชีวิต
บุญบั้งไฟหรือบุญเดือนหกเป็นประเณีที่มีส่วนในการสร้างเสริมกำลังใจแก่ชาวบ้าน
และเป็นการเตรียมพร้อมในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวอีสาน
จุดประสงค์ใหญ่ของการมีงานบุญบั้งไฟ ก็เพื่อขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล
จะได้ใช้น้ำในการทำนา เพื่อให้พืชพันธุ์ธัญญาหารมีความอุดมสมบูรณ์
การจุดบั้งไฟโดยมีความเชื่อว่า การจุดบั้งไฟเพื่อบูชาพระยาแถน
เพื่อบอกกล่าวให้ท่านดลบันดาลให้ฝนตกลงมาสู่โลกมนุษย์ตามนิทานพื้นบ้าน เรื่อง
พญาคันคาก จุดบั้งไฟเพื่อบูชาอารักมเหสักข์ หลักเมือง เพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
การจุดบั้งไฟทุกครั้งโดยเฉพาะในจังหวัดยโสธรจะต้องมีการบอกกล่าว
หรือคารวะเจ้าพ่อมเหสักข์หลักเมืองเสียก่อน เพื่อเสี่ยงทายดินฟ้าอากาศและพืชพันธุ์ธัญญาหารว่าในปีนั้นๆ
จะเป็นอย่างไร เช่น ถ้าบั้งไฟขึ้นสูงก็ทำนายว่าปีนี้ฝนฟ้าจะตกต้องตามฤดูกาล
พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ การเซิ้งบั้งไฟเป็นการฟ้อนประกอบการขับกาพย์
กาพย์เซิ้งบั้งไฟมีทั้งกาพย์เซิ้งเล่านิทานหรือตำนาน เช่น ตำนานผาแดงนางไอ่
ตำนานพญาคันคาก หรือเล่านิทานท้องถิ่น เช่น นิทานเรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าแม่
และกาพย์เซิ้งประเภทคำสอน เช่น กาพย์เซิ้งพระมุณี นอกจากนี้ยังมีกาพย์เซิ้งขอบริจาคจตุปัจจัย
กาพย์เซิ้งอวยพร กาพย์เซิ้งประเภทตลกหยาบโลน เป็นต้น http://www.isangate.com/entertain/dance_0763.html#bangfai
สุพัตรา หลงสอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น